หลังจากทุกคนผ่านวันหยุดยาว หรือ ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา หลาย ๆ คนคงกลับไปหาคนที่บ้าน หรือเที่ยวต่างจังหวัด ซึ่งมีหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นกรมควบคุมโรค และกระทรวงสาธารณสุข ต่างให้ความกังวล พร้อมคาดการณ์ว่า สงกรานต์ปีนี้ ว่า จำนวนยอดผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า แต่! ก็ใช่ว่าเราจะไม่มีทางแก้ เพราะเราจะมาเสนอ วิธีดูแลตัวเองหลังสงกรานต์ ให้ปลอดภัยจากโควิด รวมถึงทำไมช่วงสงกรานต์คนติดโควิดมากกว่าปกติมาให้ทุกคนดูกัน จะมีวิธีอะไรบ้างนั้น ก็ไปดูพร้อมกันเลย!
ทำไมช่วงสงกรานต์คนถึงติดโควิดมากกว่าปกติ?
ขึ้นชื่อว่าสงกรานต์ เราคงหนีไม่พ้นทำกิจกรรมต่าง ๆ ช่วงสงกรานต์ร่วมกับเพื่อน ไม่ว่าจะเป็น ปาร์ตี้สังสรรค์, เล่นน้ำ ก่อปราสาททราย หรือรดน้ำดำหัวญาติผู้ใหญ่ ซึ่งจากปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้จำนวนผู้ป่วยโควิดเพิ่มขึ้นจนหลายครั้งที่รัฐบาลต้องออกมาวางมาตรการควบคุมสถานการณ์โควิด เพราะงั้นเราจะเล่าให้ฟังว่า สาเหตุที่คนติดโควิดเยอะขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่เป็นข้อมูลจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แบ่งได้ 5 สาเหตุดังนี้
1. พฤติกรรมการซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า หรือตลาดสดด้วยตนเอง (74%)
2. พฤติกรรมการพบญาติผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุที่ไม่พบกันมานาน (58.8%)
3. พฤติกรรมการรับประทานอาหารร่วมกับญาติ (48.5%)
4. พฤติกรรมการรวมกลุ่มกิจกรรมตามที่เคยในช่วงสงกรานต์ (41.1%)
5. พฤติกรรมการเดินทางกลับภูมิลำเนาจากรถสาธารณะ (23%)
โดยพฤติกรรมเหล่านี้เป็นปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อโควิดมากกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นการรวมตัว พบปะเจอหน้าทั้งคนที่เรารู้จัก หรือไม่รู้จัก, อยู่ใกล้กันจนลืมเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร (Social Distancing), มีกิจกรรมร่วมกันที่ใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่, สังสรรค์พูดคุยสนทนา, รับประทานอาหารร่วมกัน, ใช้สิ่งของร่วมกันกับผู้อื่น หรือการแสดงความรักกับครอบครัว และคนรัก เช่น กอด,หอม, จับมือ เป็นต้น
ซึ่งพฤติกรรมที่เราพูดถึงนั้น เราอาจจะเผลอทำไม่รู้ตัวจนหลายคนคงเริ่มสงสัยว่า อย่างงี้เราควรทำไงต่อ เราจะเสี่ยงติดโควิดรึเปล่า อย่าพึ่งกังวลไป! เพราะเราจะมาแชร์วิธีดูแลตัวเองหลังสงกรานต์ที่คุณ ศ.คลินิก เกียรติ นพ.อุดม คชินทร รองประธานที่ปรึกษา ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) มาให้ทุกคนดูกัน
วิธี ดูแลตัวเองหลังสงกรานต์ ให้ปลอดภัยจากโควิด-19
1. ตรวจเชื้อโควิด และสำรวจอาการด้วยตนเอง
“การตรวจเชื้อโควิด” ถือเป็นวิธีแรก ๆ ที่เราควรปฏิบัติการหลังจากไปเที่ยวช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจุบันผู้ติดเชื้อโควิดนั้นมีทั้งแบบกลุ่มที่แสดงอาการ และกลุ่มที่ไม่แสดงอาการ ซึ่งกลุ่มผู้ติดเชื้อโควิดอย่างหลังมีแนวโน้มที่จะแพร่กระจายเชื้อโควิดให้ผู้อื่นมากกว่า เนื่องจากไม่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อ ทำการแนวทางการระวังตัวลดลง หรือการ์ดตกจากเดิม
เพราะงั้นการที่เราตรวจเชื้อโควิด ทั้งการตรวจโควิดเบื่องต้นด้วยตัวเองแบบ Antigent Test Kit (ATK) ซึ่งใครที่สนใจอยากศึกษาวิธีตรวจโควิดแบบ ATK ทั้งแบบน้ำลาย และแบบแยงจมูก ก็สามารถเข้าไปตามอ่านได้เลยที่ เตรียมสมุดมาจด! How to ตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ด้วยตนเอง หรือ การตรวจโควิดอย่างละเอียดก็สามารถใช้วิธี RT-PCR หรือ Real Time Polymerase Chain Reaction แทน ซึ่งทั้งสองวิธีการตรวจโควิดนั้นมีความประสิทธิภาพ และความแม่นยำแตกต่างกันไป ก็สามารถเข้าไปศึกษาต่อได้ที่ มัดรวมวิธีตรวจโควิดแบบไหนแม่นยำที่สุด
ส่วน “การสำรวจอาการของตนเอง” นั้นเราต้องประเมินว่าตัวเรามีอาการที่เข้าข่ายกลุ่มโควิดรึเปล่า เช่น มีไข้ต่ำ ๆ, ไอจาม, เจ็บคอ, มีน้ำมูก, ตาแดง, มีผื่น, หายใจไม่ปกติ, ท้องเสีย ฯลฯ ซึ่งถ้าใครมีอาการข้างต้นนี้ เราก็คงต้องกักตัว และลองตรวจเชื้อโควิด เพื่อดูว่าเราติดเชื้อหรือไม่ติดเชื้อได้นั่นเอง
2. เข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือวัคซีนบูสเตอร์ (Booster)
ตอนนี้เราเชื่อว่า คนส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนกันแล้วอย่างน้อย 1-2 เข็ม อ้าวแล้วเข็มการฉีดวัคซีนกระตุ้น ควรฉีดรึเปล่า ฉีดแค่สองเข็มไม่เพียงพอหรอ? คำตอบคือ ไม่พอ! เพราะปัจจุบันเชื้อโควิดมีหลากหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น เบต้า, แอลฟา, แกมมา, เดลต้า, หรือเชื้อเดลต้าพลัสที่กำลังแพร่ระบาดอย่างมาก อีกทั้งเราคงได้ยินข่าวว่า เชื้อนั้นมีความสามารถในการกลายพันธุ์ได้อีก ทำให้การฉีดวัคซีนเพียง 1-2 เข็มอาจไม่เพียงพอต่อการป้องกันเชื้อโควิดอีกต่อไป โดยในไทยมีวัคซีนบูสเตอร์ให้ฉีดเพิ่มเติมอยู่ทั้งหมด 3 ประเภท
– วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca)
– วัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer)
– วัคซีนโมเดอร์นา (Moderna)
การฉีดวัคซีนบูสเตอร์จำเป็นขนาดไหน?
จากผลสำรวจจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิดในวันที่ 1 ม.ค. – 31 มี.ค. 65 โดยกรมควบคุมโรคที่ผ่านมาพบว่า
“ผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน หรือฉีดวัคซีนเพียงแค่ 1-2 เข็มจะมีอัตราการเสียชีวิตมากกว่าผู้ป่วยที่ได้รับการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ถึง 5-31 เท่าเลยทีเดียว! ซึ่งผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ในแต่ละวัน 95% เป็นคนกลุ่ม 608”
จะเห็นได้ว่าการฉีดวัคซีนบูสเตอร์นั้นจึงมีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งคุณ ศ.คลินิก เกียรติ นพ.อุดม คชินทร รองประธานที่ปรึกษา ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้ออกมาสรุปประโยชน์ของการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ แบ่งได้ดังนี้
– ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19
– ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโควิด เนื่องจากประสิทธิภาพ
– ลดความรุนแรงของอาการโควิดเมื่อได้รับเชื้อ
– ลดอัตราการตายที่เกิดจากผู้ติดเชื้อโควิด
ดังนั้นเราจึงควรหันมาฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน, ลดอัตราการติดเชื้อ และความรุนแรงของอาการ ฯลฯ ตามที่กล่าวไปข้างต้น แต่การฉีดวัคซีนนั้นไม่ได้ทำให้ร่างกายเรามีภูมิต้านทานต่อเชื้อโควิดแบบ 100% และบางคนอาจมีอาการข้างเคียงที่แตกต่างกันออกไป ทางที่ดีก็ลองปรึกษากับแพทย์ดูก่อนที่จะฉีดวัคซีนได้นะ ใครที่อยากรู้ว่าเราควรฉีดวัคซีนค็อกเทลสูตรไหน ก็สามารถเข้าไปอ่านต่อได้ที่ สารพัดสูตรวัคซีนค็อกเทลในไทย ฉีดตัวไหนควรบูสอะไร
3. ปฏิบัติตัวป้องกันเชื้อโควิด และใช้ชีวิตสไตล์ New Normal
เมื่อเรากลับมาจากการเที่ยวช่วงวันหยุดสงกรานต์ ทางที่ดีเราควรกักตัวเอง 5 วัน และติดตามอาการของตนเองอีก 5 วัน (อ้างอิงจากกรมควบคุมโรค) ซึ่งในช่วงที่เราติดตามอาการอยู่นั้นเราต้องใช้ชีวิตสไตล์ New Normal ที่เป็นแนวทางปฏิบัติตนเอง เพื่อป้องกันเชื้อโควิดตามมาตรการ D-M-H-T-T ของกรมควบคุมโรค ได้แก่
– D : Social Distancing
การเว้นระยะห่างระหว่างผู้อื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร และหลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่แออัด เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในบ้านได้ เช่น เมื่อรับประทานอาหาร หรือมีกิจกรรมสังสรรค์ร่วมกัน ฯลฯ
– M : Mask Wearing
สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อพบเจอผู้อื่น เนื่องจากการสวมหน้ากากอนามัยนั้น ช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโควิดสูงถึง 70% ขึ้นไป หากใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี
– H : Hand Washing
การล้างมือบ่อย ๆ ให้สะอาดนั้นช่วยลดแหล่งสะสมเชื้อโรคได้ เพราะมือของเราถือเป็นหนึ่งในแหล่งสะสมเชื้อโรค ไม่ว่าจะเป็นการหยิบ จับ ถู อีกทั้งเราควรเลี่ยงการใช้มือถู จับใบหน้า เพื่อเลี่ยงการติดเชื้อโควิด
– T : Testing
การตรวจวัดอุณหภูมิเป็นการสกรีนตรวจหาเชื้อโควิดเบื้องต้น เมื่อคนที่มีอาการเข้าข่าย
– T : Thai Cha Na
เมื่อออกไปข้างนอก ให้สแกนไทยชนะทุกครั้งเมื่อเข้า-ออกสถานที่สาธารณะ เพื่อจะได้มีข้อมูลในการประสานงาน อีกทั้งเมื่อมีผู้ติดเชื้อโควิดเข้าสถานที่เราเคยไป เราก็จะสามารถได้รับข้อมูลผ่านไทยชนะอีกด้วย
นอกจากเราควรปฏิบัติตามหลักของ D-M-H-T-T เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการติดโควิดแล้ว เราควรใช้หลังการมองแบบ Universal Prevention หรือ การป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล คือการคิดว่าทุกคน ทุกที่ ทุกเวลามีเชื้ออยู่ ท่านอย่าไปรับเชื้อ และแพร่เชื้อให้คนอื่นโดยไม่รู้ตัว เพื่อจะได้ทำให้เราตระหนักอยู่ตลอดว่า เชื้อโควิดนั้นสามารถแพร่กระจาย และติดเชื้อได้ง่าย อีกทั้งยังช่วยให้ไม่การ์ดตกด้วยนั่นเอง
ถึงแม้เราจะได้หยุดยาวเที่ยวนานในช่วง Songkran แต่เราก็มีวิธี ดูแลตัวเองหลังสงกรานต์ ซึ่งถ้าใครอยากเพิ่มความสะอาด ปลอดภัย และความมั่นใจของตนเอง ก็สามารถใช้บริการของ We Clean VR ที่ทำความสะอาดด้วยน้ำยาอิเล็กโทรไลต์ที่เป็นนวัตกรรมจากสวิตเซอร์แลนด์ SteriPlant น้ำยาคุณภาพสูง และมีความปลอดภัยระดับ Food Grade เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย และสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด และอาคารสำนักงาน ฯลฯ
หากอยากอ่านบทความดี ๆ เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โควิดแบบนี้อีก ก็สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ Link
ติดต่อสอบถาม
: 099 165 4462
Line@ : @wecleanvr (มี @ข้างหน้าด้วย)
Source: ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์. Bangkokbiznews. Bangpakok3. Prd. Petcharavejhospital