บริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ

บริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ

บริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ

เช็คด่วน ! 9 แหล่งสะสมเชื้อโรคภายในบ้านที่คุณอาจคาดไม่ถึง

แหล่งสะสมเชื้อโรค : ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้เราหวาดระแวงทุกครั้ง เมื่อต้องออกจากบ้าน ทั้งเชื้อโรค เชื้อไวรัส ไหนจะเจ้าโควิด-19 ตัวร้าย

Home Sweet Home… กลับบ้านมาแล้ว เราเชื่อว่าทุกคนก็อยากผ่อนคลายให้เต็มที่ แต่เดี๋ยวก่อน !! อย่าเพิ่งวางใจไป เพราะในบ้านแสนสุขของเราหลังนี้ ก็ถือว่าเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค และเชื้อไวรัสชั้นนำเลยก็ว่าได้นะ

วันนี้ We Clean VR มีบทความรวบรวม 9 จุดสะสมเชื้อโรค ที่สมาชิกในครอบครัวสัมผัสกันทุกวัน รวมทั้งข้อแนะนำที่จะช่วยลดเชื้อโรคภายในบ้านของคุณได้อีกด้วย เรามาเช็คไปพร้อม ๆ กันเลย ว่าภายในบ้านแสนสุขของทุกคนมีจุดไหนบ้างที่เรามองข้าม และอาจถึงขั้นคาดไม่ถึงกันบ้าง

  1. ลูกบิดประตู

ทันทีที่คุณกลับมาบ้าน แน่นอนว่าเชื้อโรคที่คุณสัมผัสมาจากข้างนอก จะถูกส่งไปที่ด่านแรกของบ้าน นั่นก็คือ “ลูกบิดประตู” ลูกบิดประตูสามารถส่งต่อเชื้อโรคให้กับคนในบ้านได้อย่างง่ายดาย มีผลวิจัยในปี 2562 ระบุว่า เชื้อโรคอาศัยอยู่ที่ลูกบิดประตูถึง 90 % ดังนั้น ถ้าเราเพียงแค่ทำความสะอาดลูกบิดประตู ก็จะช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ถึง 80 – 99 %

ข้อแนะนำ : ใช้ผ้าชุบแอลกอฮอล์ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค เช็ดให้ทั่วลูกบิดประตู ควรทำความสะอาดอย่างน้อย 2 – 3 ครั้ง / สัปดาห์ หรือใช้สเปรย์แอลกอฮอล์ฉีดบนทิชชู แล้วเช็ดก่อนสัมผัสทุกครั้ง ทั้งนี้ต้องดูวัสดุของลูกบิดประตูของแต่ละบ้านด้วยนะ เพราะวัสดุแต่ละอย่างก็จะมีการบำรุงรักษาที่แตกต่างกันไปอีก ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องเปลี่ยนลูกบิดประตูใหม่ยกชุด แล้วอย่าหาว่าไม่เตือนนะ

2. สวิตช์ไฟ

คงมีหลาย ๆ บ้านที่มองข้าม และละเลยที่จะทำความสะอาดสวิตช์ไฟ ก็ใครมันจะไปรู้ละว่าไอ้ต้าวจุดเล็ก ๆ ที่เรากดไม่รู้กี่ครั้งในแต่ละวัน จะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ที่สามารถแพร่เชื้อไปให้ทุกคนภายในบ้านได้เพียงเสี้ยววินาที ถึงแม้เราจะมองไม่เห็นคราบสิ่งสกปรก แต่จากการศึกษาในสหรัฐอเมริกา พบว่าบนสวิตช์ไฟ โดยเฉพาะสวิตช์ไฟห้องน้ำนั้นมีเชื้อโรคอาศัยอยู่เยอะเลยทีเดียว

ข้อแนะนำ : ทำความสะอาดสวิตช์ไฟอย่างสม่ำเสมอ โดยการฉีดแอลกอฮอล์ลงบนผ้า และนำไปเช็ดสวิตช์ไฟให้ทั่ว หลังจากนั้นให้นำผ้าแห้งมาเช็ดซ้ำอีกครั้ง

3. เมาส์ คีย์บอร์ด และ รีโมทอุปกรณ์ไฟฟ้า 

สำหรับช่วง Work from Home นี้ เชื่อว่าหลายคนแทบจะแยกเวลาทำงาน และเวลาส่วนตัวไม่ออกแล้ว เรียกได้ว่าแทบจะกิน นอนอยู่กับคอมพิวเตอร์แล้ว สำหรับใครที่กินไป ทำงานไป ดูหนังฟังเพลงไป ทางเราแนะนำให้หยุด ! เพราะเชื้อโรค และแบคทีเรีย ทั้งบนมือ เศษอาหาร รวมถึงเชื้อโรคที่ซ่อนตัวอยู่ในคีย์บอร์ด และรีโมทอุปกรณ์ต่าง ๆ กำลัง Move on เป็นวงกลม และตามร่องของคีย์บอร์ดสะสมสิ่งสกปรกได้จำนวนมาก แถมปุ่มกดรีโมทหลายรุ่นยังคงเป็นยาง ซึ่งดูดซับคราบเหงื่อ และสิ่งสกปรกไว้มากกว่าพื้นผิวอื่น ๆ ประกอบกับไม่ได้รับการทำความสะอาดเป็นประจำ จึงเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค แบคทีเรีย และเชื้อราจำนวนมาก จากผลการศึกษาในต่างประเทศ พบว่า  รีโมทในห้องพักโรงแรมถือว่าเป็นวัตถุที่สกปรกที่สุดภายในห้อง และคีย์บอร์ดส่วนใหญ่มีเชื้อโรคมากกว่าฝารองนั่งชักโครกด้วยซ้ำ

ข้อแนะนำ : สำหรับรีโมทอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่บ้าน ควรทำความสะอาดเดือนละครั้ง ส่วนเมาส์ และคีย์บอร์ด ควรทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง โดยใช้แปรงปัดฝุ่นออกจากร่องของปุ่มกดก่อน จากนั้นใช้ผ้าชุบแอลกอฮอล์หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ เช็ดรอบ ๆ รีโมท และใช้คอตตอนบัดชุบแอลกอฮอล์ เช็ดเก็บรายละเอียดตามร่องของปุ่มกด เสร็จแล้วเช็ดด้วยผ้าแห้งอีกครั้ง

4. ราวบันได

สำหรับราวบันไดรวมถึงตัวบันได นอกจากความปลอดภัยด้านการใช้งานแล้ว ความสวยงาม และความสะอาดก็สำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากทุกคนในบ้านต้องสัมผัสกันทุกครั้งเมื่อเดินขึ้นลง โดยเฉพาะเด็ก และผู้สูงอายุ คงจะไม่ปลอดภัยนักถ้าทุกครั้งที่สัมผัสจะพบความมัน คราบฝุ่น รอยมือ/เท้า หรือแม้กระทั่งเชื้อโรคที่ซ่อนอยู่ การทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ นอกจากป้องกันการสะสมของเชื้อโรคแล้ว ยังแถมความสวยงามน่าใช้งานอีกด้วย

ข้อแนะนำ : ทำความสะอาดโดย ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมน้ำยาฆ่าเชื้อ บิดผ้าให้หมาด นำไปเช็ดให้ทั่วบริเวณ แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำอีกครั้ง

5.  ฝารองนั่งชักโครก

แน่นอนว่าทุกคนมีความสุขกับการขับถ่าย และอาจจะใช้เวลานานไปเป็นพิเศษ เมื่อหยิบโทรศัพท์มือถือติดเข้าไปด้วย หลายคนอาจจะคิดว่าโถด้านในชักโครกเป็นที่ที่มีเชื้อโรคมากที่สุด แต่อย่าได้มองข้าม ฝารองนั่งชักโครก ไปเลยนะ โดยเฉพาะในห้องน้ำสาธารณะ ฝารองนั่งเต็มไปด้วยเชื้อโรค แบคทีเรีย ที่จะทำให้คุณท้องร่วง หรืออาจจะเป็นโรคติดต่อทางช่องคลอดได้อีกด้วย นอกจากนี้ยิ่งถ้าบ้านไหนเก็บแปรงสีฟันใกล้ชักโครกอีกละก็ ผลวิจัยจากฝั่งอังกฤษได้อธิบายไว้ว่า ชักโครกสามารถปล่อยละอองเชื้อโรคได้มากกว่า 10 ล้านตัวไปบนแปรงสีฟัน และบริเวณโดยรอบในห้องน้ำได้อีกด้วย รู้อย่างนี้แล้วอย่าลืมปิดฝาชักโครกก่อนกดน้ำกันด้วยนะ 

ข้อแนะนำ : ควรทำความสะอาด 1 ครั้ง/สัปดาห์ โดยใช้แปรงจุ่มน้ำยาล้างจานผสมกับน้ำเปล่า นำมาขัดทำความสะอาดเบา ๆ และล้างออกด้วยน้ำเปล่าจนสะอาด

6. ก๊อกน้ำ

“เปิดก๊อกน้ำด้วยมือที่สกปรก ล้างมือ และติดเชื้ออีกครั้งด้วยการปิดก๊อกน้ำ” ถือว่าเป็นเรื่องตลกร้ายที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึง สำหรับอุปกรณ์ที่เราใช้ทำความสะอาด แต่กลับเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคโดยที่เราไม่รู้ตัว ในต่างประเทศมีการวิจัย การเปรียบเทียบเชื้อโรคในห้องน้ำของประชาชน พบว่าก๊อกน้ำถือว่าเป็นจุดที่สกปรกที่สุดอันดับที่ 2 เลยทีเดียว

ข้อแนะนำ : ควรทำความสะอาดก๊อกน้ำก่อนล้างมือ หรือทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ล้างด้วยน้ำอุ่นและสบู่ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค สำหรับก๊อกสาธารณะ หลังจากเช็ดมือแห้งแล้ว ให้ใช้กระดาษทิชชูปิดก๊อกน้ำ

7. อ่างล้างจาน

จากการวิจัยพบว่า ห้องครัว พบทั้งจุลินทรีย์ และไวรัสจำนวนมาก ที่สามารถปนเปื้อนได้ในอาหารและน้ำ รองศาสตราจารย์ท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า อ่างล้างจานเป็นสถานที่ที่เลวร้ายที่สุดในห้องครัว ถึงแม้จะเป็นจุดที่เราใช้ทำความสะอาดทุก ๆ สิ่ง ทั้งผัก ผลไม้ จานชาม และเนื้อสัตว์ แต่นั่นเป็นสาเหตุให้ อ่างล้างจานเป็นจุดสะสมสิ่งสกปรกจำนวนมาก เรียกได้ว่าเป็นโรงงานแบคทีเรียขนาดย่อมเลยก็ว่าได้

ข้อแนะนำ : ควรทำความสะอาดก่อนและหลังใช้งาน หรืออย่างน้อยสัปดาห์ 1 – 2 ครั้ง และเช็ดให้แห้งหลังล้างเสร็จ สำหรับท่อระบายน้ำควรทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ด้วยสารฟอกขาวผสมกับน้ำเปล่า เทลงไปในท่อระบายน้ำ แล้วเปิดน้ำไว้เพื่อล้างท่อให้สะอาด

8. ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน

หลังจากที่เหนื่อยมาทั้งวัน หลายคนก็อยากอยู่ในสภาวะทิ้งตัว ทิ้งทั้งตัวลงบนที่นอน แต่ช้าก่อน คุณรู้หรือไม่ ว่าบนปลอกหมอน และผ้าปูที่นอน มีเชื้อโรค และแบคทีเรียอยู่มากขนาดไหน มีผลวิจัยในปี 2559 ระบุว่า บนปลอกหมอนที่ไม่ได้ซักทำความสะอาด 1 สัปดาห์ จะเต็มไปด้วยแบคทีเรียโดยเฉลี่ย 3 ล้านหน่วยต่อตารางนิ้ว และถ้าคุณไม่ได้ซักปลอกหมอนเป็นเวลา 3 สัปดาห์ จะมีแบคทีเรียมากถึง 8.51 ล้านหน่วยต่อตารางนิ้ว รู้แบบนี้แล้ว คุณคงไม่อยากนอนกับแบคทีเรียเพื่อนรักไปทั้งคืนใช่ไหมล่ะ

ข้อแนะนำ : ควรเปลี่ยนปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง

9. ผ้าม่าน มุ้งลวด มู่ลี่

ผ้าม่าน มุ้งลวด หรือมู่ลี่ ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของเจ้าของบ้านเลยก็ว่าได้ คุณคงไม่สบายใจนัก ถ้ามีแขกมาเยี่ยมเยือนที่บ้าน และหันไปเห็นฝุ่นที่เกาะอยู่บริเวณนั้น ผ้าม่าน มุ้งลวด และมู่ลี่ ถือว่าเป็นแหล่งสะสมสิ่งสกปรกชั้นดี และเป็นแหล่งซ่อนตัวของเชื้อโรค และเชื้อราอีกด้วย เพราะต้องรับลมที่ผ่านเข้าออกจากบ้าน แน่นอนว่ารับฝุ่นจากภายนอกเข้ามาด้วย

ข้อแนะนำ : ควรถอดผ้าม่านมาซัก อย่างน้อยทุก 3 – 6 เดือน , ทำความสะอาดมุ้งลวดโดยการล้างด้วยน้ำสบู่ และใช้แปรงขัดให้สะอาด ก่อนนำไปผึ่งแห้ง ส่วนมู่ลี่ให้นำผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำแล้วเช็ดทีละซี่ จากนั้นใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำอีกรอบ

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว We Clean VR เชื่อว่ามีหลายคนที่ต้องร้องว่า อห. (โอ้โห) ตรงนั้นก็เชื้อโรค ตรงโน้นก็เชื้อไวรัส เพราะอย่างนี้เราควรใส่ใจทำความสะอาดทุกซอกทุกมุม รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในบ้านอย่างละเอียด แต่จะดีกว่านี้ไหม… ถ้าให้ We Clean VR ได้เข้ามาช่วยดูแลฆ่าเชื้อโรคที่ซ่อนอยู่ในที่ที่คุณอาจคาดไม่ถึง เพื่อให้คุณและทุกคนที่คุณรัก ได้ใช้เวลาที่มีค่าด้วยกัน… อย่างไม่ต้องกังวลใจ

We Clean VR หวังว่าทุกคนจะได้สนุกกับการทำความสะอาดบ้าน แบบไม่สร้างงานเพิ่มกันนะ… รู้อะไรก็ไม่เท่ารู้อย่างนี้ ในเมื่อทุกคนรู้แล้ว ก็อย่าหาทำความสะอาดบ้านผิด ๆ แบบเดิม ๆ อีกนะ แล้วบทความหน้า We Clean VR จะนำเอาเคล็ดลับ หรือสาระเรื่องอะไรมาฝาก ขอให้ทุกคนติดตามรอกันได้เลย หากสนใจเรื่องการดูแล ทำความสะอาด สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ Link

📱FB : https://www.facebook.com/wecleanvr

📟 Line@ : @wecleanvr (มี @ ข้างหน้าด้วย)

บริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ