ตรวจภูมิหลังฉีดวัคซีน – กว่าแต่ละคนจะได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย การตรวจภูมิหลังฉีดวัคซีน จึงเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนต้องการจะเพิ่มความมั่นใจ เพราะบางคนเดินทางไกลกว่าจะได้วัคซีน 1 เข็ม บางคนลงทะเบียนอย่างยากลำบาก หรือบางคนก็ต้องต่อคิว ต่อแถวยาวเป็นครึ่งค่อนวัน เมื่อได้ฉีดวัคซีนแล้ว จึงอยากเพิ่มความมั่นใจว่า ที่ฉีดวัคซีนไปนั้นคุ้มค่าหรือไม่ เรามาดูกันดีกว่าว่า การตรวจภูมิหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 นั้น จะคุ้มค่าจริงอย่างที่คิดแน่หรือ ?
เชื่อว่าปัจจุบัน คนไทยกว่า 80% ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 กันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนชนิดสารพันธุกรรม หรือ MRna อย่าง ไฟเซอร์ โมเดอร์นา หรือวัคซีนชนิดใช้ไวรัสเป็นพาหะ อย่างแอสตราเซเนกา และวัคซีนชนิดเชื้อตาย อย่างซิโนแวค ซิโนฟาร์ม ที่บางคนอาจจะได้ครบโดส หรือบางคนก็ได้ฉีดไขว้กัน จนต่างให้ความสนใจในการตรวจภูมิคุ้มกันกันมากมาย กลายเป็นเทรนด์ที่ว่าใครฉีดวัคซีนมา ก็ต้องโชว์ภูมิลงโซเชียล วัดภูมิร่างกายกันไปข้าง
การตรวจหาภูมิคุ้มกันการติดเชื้อไวรัสโควิด -19 คืออะไร ?
การตรวจหาภูมิคุ้มกันการติดเชื้อไวรัสโควิด -19 หรือ (Covid-19 Antibody Level Test) เป็นการตรวจหาปริมาณภูมิต้านทานต่อเชื้อโควิด-19 ชนิด IgG,IgM (Total antibody) ในร่างกายที่มีต่อเชื้อ SARS-CoV2 ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่เชื้อโควิด-19 จะเข้าสู่เซลล์ในร่างกาย การตรวจภูมิคุ้มกันโควิด-19 ยังเป็นส่วนหนึ่งในการทดสอบระบบภูมิคุ้มกัน (Antibody) หลังการรับวัคซีนโควิดได้อีกด้วย
การตรวจภูมิหลังการฉีดวัคซีน มี 3 รูปแบบ
- การตรวจหาภูมิหลังฉีดวัคซีนแบบ Rapid Screening Test คือ การตรวจเลือดเพื่อหาระดับภูมิต้านทานเชื้อ SARS-CoV-2 เป็นการตรวจหาภูมิคุ้มกันเชิงคุณภาพชนิด IgM และ IgG โดยการตรวจด้วยวิธีนี้จะรายงานผลว่าร่างกายมีหรือไม่มีภูมิคุ้มกัน เหมาะสำหรับ “ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วหรือเคยมีการติดเชื้อโควิด-19” ใช้เวลาในการรอผลเพียง 30 นาที
- การตรวจหาภูมิหลังฉีดวัคซีนแบบ Quantitative เป็นการตรวจหาเชิงปริมาณของภูมิคุ้มกันชนิด IgG ต่อส่วนของ Spike Protein สำหรับการตรวจด้วยวิธีนี้จะรายงานผลว่ามีหรือไม่มีภูมิคุ้มกัน หลังจากเคยติดเชื้อมาหรือหลังจากมีการฉีดวัคซีนแล้ว ในหน่วย AU/ml ว่าร่างกายมีปริมาณภูมิคุ้มกันเท่าไร โดยใช้เวลารอผลเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
- การตรวจหาภูมิหลังฉีดวัคซีนแบบ Covid-19 Neutralizing Antibody เป็นการตรวจภูมิคุ้มกัน ดูความสามารถในการยับยั้งการเข้าสู่เซลล์ของเชื้อไวรัส Covid-19 และตรวจหาภูมิคุ้มกันเชิงคุณภาพชนิด IgM และ IgG ซึ่งวิธีนี้จะรายงานผลว่าในร่างกายของเรามีหรือไม่มีภูมิคุ้มกัน และสามารถตรวจวัดเปอร์เซ็นต์การยับยั้งเชื้อโควิด-19 ที่เกิดจากการฉีดวัคซีนได้ ระยะเวลาการรอผลคือ 5 วันทำการ
ค่าที่ได้หลังจากการตรวจภูมิคุ้มกันบ่งบอกถึงอะไร?
เป็นการตรวจโดยการเจาะเลือดหาภูมิที่มีต่อโปรตีนหนามบนผิวของไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นจุดที่ไวรัสใช้ในการเจาะเข้าเซลล์ร่างกาย ภูมิที่มีต่อโปรตีนหนามในปริมาณที่สูงเพียงพอ จะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อและลดความรุนแรง และเสียชีวิตจากโควิด-19 ได้
ซึ่งเราจะสามารถแปลผลการตรวจที่ได้จะเป็นหน่วยของภูมิชนิด IgG ต่อโปรตีนหนามของเชื้อก่อโรคโควิด-19
- หากระดับของภูมิต่ำกว่า 1.0 หน่วย แปลผลการตรวจได้ว่า ” ไม่พบภูมิต่อเชื้อ ”
- หากระดับผลการตรวจสูงกว่า 1.0 หน่วย แปลผลการตรวจได้ว่า ” พบภูมิต่อเชื้อ ”
- หากระดับผลการตรวจสูงกว่า 4.8 หน่วย แปลผลได้ว่า ” พบภูมิต่อเชื้อในระดับสูง “
- หากระดับภูมิที่มากกว่า 4.8 หน่วย เป็น ” เกณฑ์ในการเลือกผู้บริจาคพลาสมาหลังหายป่วยจากโควิด-19 เพื่อนำพลาสมาไปรักษาผู้ป่วย ”
*หน่วยในการวัดระดับภูมิของเครื่องตรวจแต่ละบริษัทมีค่าไม่เท่ากัน ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้
ซึ่งปัจจัยที่ทำให้วัคซีนต่อต้านการติดเชื้อไม่ดี อาจจะรวมถึงการไม่มีภูมิคุ้มกัน หรือมีภูมิในระดับต่ำ หรือเชื้อมีการกลายพันธุ์ ที่มีคุณสมบัติในการหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้ และการตอบสนองภูมิคุ้มกันระดับเซลล์ของบุคคลนั้นทำงานได้ไม่ดี เช่น มีโรคประจำตัว หรือได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
ใครควรตรวจภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ?
1. คนที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนชนิดสารพันธุกรรม หรือ MRna อย่าง ไฟเซอร์ โมเดอร์นา หรือวัคซีนชนิดใช้ไวรัสเป็นพาหะ อย่างแอสตราเซเนกา และวัคซีนชนิดเชื้อตาย อย่างซิโนแวค ซิโนฟาร์ม
2. คนที่หายจากการติดเชื้อโควิด-19 ได้รับการรักษาจนหายดี ไม่มีอาการข้างเคียงตามที่แพทย์ที่ให้การรักษาได้ประเมิน หรือหลังจากไปเสี่ยงรับเชื้อโควิด-19 มา ไม่น้อยกว่า 1-3 เดือน
3. คนที่ไม่แน่ใจว่าเคยได้รับเชื้อโควิด 19 อย่างไม่รู้ตัว และอาจมีภูมิแล้ว
ตรวจภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 จำเป็นแค่ไหน ?
นายแพทย์ ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาระบุถึงการตรวจภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่า
“การไปตรวจภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนนั้น ไม่คุ้มค่าที่จะไปตรวจ เนื่องจากค่าที่ได้มาจากการตรวจไม่สามารถบ่งชี้อาการของโรคหรือการป้องกันโรคได้ เป็นเพียงการขึ้นของภูมิคุ้มกันในลักษณะภาพรวม ไม่สามารถบอกได้ว่าจะสามารถป้องกันโควิดสายพันธุ์อื่น ๆ และหลักการตรวจของแต่ละแห่งก็มีค่าของการวัดตัวเลขที่มีความแตกต่างกันออกไป”
นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลกและองค์การอาหารและยา ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเราจำเป็นต้องมีระดับภูมิคุ้มกันมากขนาดไหน จึงจะสามารถป้องกันโรคโควิด-19 ได้ ซึ่งมีความสอดคล้องกัน และอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเราจะตรวจพบภูมิคุ้มกัน IgG Positive หรือ แบบ % Neutralizing Antibody ที่สูง ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ติดโควิด-19 100% เพราะในปัจจุบัน สายพันธุ์ของโควิด-19 มีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมและกลายพันธุ์มากยิ่งขึ้น ทำให้เมื่อเราตรวจภูมิคุ้มกันไปเรื่อย ๆ จะพบว่า % ของ Neutralizing Antibody อาจจะมีการลดลงตามระยะเวลาที่ผ่านไปด้วย
การมีภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นนั้น อาจช่วยให้เราปลอดภัยจากความรุนแรงของโรคได้ราว 6 เดือนหรือมากกว่านั้นเล็กน้อย เพราะยังไม่มีตัวเลขยืนยันแน่นอนว่าระดับภูมิคุ้มกันจะอยู่ในร่างกายได้นานแค่ไหน และปกติก็จะลดลงเรื่อย ๆ หากภูมินั้นลดลงมากจนถึงจุดหนึ่งก็จำเป็นต้องมีการกระตุ้นด้วยการฉีดวัคซีนอีก เพราะเชื้อโควิด-19 นั้นมีระยะฟักตัวที่สั้น การจะป้องกันได้ดีต้องอาศัยภูมิต้านทานที่สูงอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเรื่องของการกลายพันธุ์ ซึ่งจำเป็นต้องติดตามผลของวัคซีนแต่ละชนิดต่อไปว่าได้ผลต่อเชื้อกลายพันธุ์มากน้อยแค่ไหน
สรุป ! ควรตรวจภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือไม่
การตรวจภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ก็ขึ้นอยู่กับความสบายใจของแต่ละบุคคล บางคนอาจต้องการทราบภูมิคุ้มกันของตนเองหลังจากฉีดวัคซีน หรือต้องการทราบประสิทธิภาพของวัคซีนที่ตนเองฉีด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การตรวจภูมิคุ้มกันก็ไม่ได้มีผลต่อการป้องโควิด-19 ได้ 100% และไม่ว่าจะภูมิคุ้มกันดีหรือสูงแค่ไหน เราก็ยังต้องระมัดระวังตัวเอง และใช้ชีวิตแบบ social distancing กันต่อไป จนกว่าจะถึงวันที่โควิด-19 จะเป็นเพียงอาการไข้หวัดชนิดหนึ่งที่ร่างกายของเราสามารถรับมือได้ หรือมียารักษา และไม่ส่งผลอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต
ดังนั้น ในตอนนี้ทุกคนก็ควรจะต้องใส่ใจดูแลตัวเอง หมั่นทำความสะอาดร่างกายและสถานที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน ให้สะอาดและปลอดเชื้ออยู่เสมอ ด้วยบริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรคและทำความสะอาดแบบ Big Cleaning จาก We Clean VR ด้วยน้ำยาอิเล็กโทรไลต์ SteriPlant นวัตกรรมจากสวิตเซอร์แลนด์ที่ช่วยกำจัดเชื้อโรค ไวรัส และแบคทีเรีย โดยคุณภาพระดับ Food Grade ที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และด้วยอุปกรณ์การทำความสะอาดที่ครบวงจร เพื่อสุขลักษณะและความปลอดภัยที่ดีของทุกคนในช่วงไวรัสโควิด-19 กำลังระบาด..
หากอยากอ่านบทความดี ๆ เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โควิดแบบนี้อีก ก็สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ Link
ติดต่อสอบถาม
Line@ : @wecleanvr (มี @ข้างหน้าด้วย)
Source: Petcharavej. Ramkhamhaeng. Vichaivej